656-1
แทงบอล บาคาร่า คาสิโน สล็อต

“เดอะ ค็อป” กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดพวกเขาบุกเฉือด “เจ้าป่า” น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-0 ในศึกเอฟเอ คัพ ส่งผลให้ทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศพบ ทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเวมบลีย์ ทำให้ตอนนี้ หงส์แดงยังคงอยู่ในเส้นทางการลุ้น 4 แชมป์ แต่อย่างไรก็ตาม หงส์แดงต้องเจอกับช่วงเดือนเมษามหาโหด เพราะโปรแกรมแน่นเอี๊ยดจนแทบไม่ได้พัก  การลุ้น 4 แชมป์ หรือ “Quadruple” อาจจะดูเหมือนยากเกินความคาดหมาย แต่ตอนนี้ เดอะ ค็อป ลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในเส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่ ดังนั้นการที่จะก้าวไปถึงจุดสูงสุดดังกล่าว ก็ไม่ใช่ว่าเส้นทางจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะ ลิเวอร์พูล  จะต้องเจอแต่ทีมแกร่งๆในช่วงเดือนเมษายนนี้

   “เดอะ ค็อป” งัดฟอร์มเก่งแบบสุดยอดมาตั้งแต่ต้นปี 2022 เมื่อเดินหน้าเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีก เป็นว่าเล่น ตามด้วยการคว้าถ้วยแชมป์ คาราบาว คัพ และผ่านทะลุเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ล่าสุดทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ บุกเฉือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ แบบหวุดหวิด 1-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายใน ศึกเอฟ เอ คัพ ทำให้ ทีม เดอะ ค็อป ทะลุเข้าไปตัดเชือกกับ “เรือใบสีฟ้า” ซึ่งก็มีลุ้น 3 แชมป์ในฤดูกาลนี้ซะด้วย

โปรแกรมแข่งขันสำหรับช่วงที่เหลืออยู่ของเดือนมีนาคมนี้เป็นช่วงโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ ดังนั้นจะไม่มีเกมระดับสโมสรในยุโรปฟาดแข้งกันแน่นอน และถือเป็นการพักฟื้นสภาพร่างกายของนักเตะหลายๆ คนที่ไม่ได้ติดทีมชาติด้วย

และหลังจากจบเกมพักเบรกทีมชาติ งานนี้ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ต้องพบกับมหกรรมโปรแกรมมหาโหด ต้อนรับเดือนที่ร้อนที่สุด และยิ่งเห็นเกมที่  “เดอะ ค็อป” ต้องลงสนาม อุณหภูมิภายในรั้วแอนฟิลด์ยิ่งเพิ่มขึ้นแทบทะลุปรอท

“เดอะ ค็อป” ต้องลงสนาม 9 เกมในช่วงเวลา 28 วันแถมแต่ละเกมโคตรดุเดือด และอาจจะมีความหมายถึงขั้นทำให้พวกเขาหลุดวงโคจรการคว้า 4 แชมป์ได้ หรือจะเป็นใจสู่ความสำเร็จที่เหนือคำบรรยายในซีซั่นนี้

เข้าสู่ช่วงเดือนเมษามหาสงกรานต์  “เดอะ ค็อป” ลิเวอร์พูล เปิดถิ่นแอนฟิลด์ต้อนรับ ทีม วัตฟอร์ด ในเกมลีก ซึ่งพวกเขาต้องเจอกับงานหนักอย่างแน่นอนเนื่องจากทีม “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้น หงส์แดงเหนื่อยแน่นอน

หลังจากได้พักแข้งได้แค่3 วัน “เดอะ ค็อป” ลิเวอร์พูล  ต้องขึ้นเครื่องบินไปเยือนดินแดนต้นตำรับขนมฝอยทอง ด้วยการเปิดศึกกับทีมเบนฟิก้า ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก

และตามมาด้วยการทำสงครามศึกใหญ่แย่งแชมป์ลีกกับ เรือใบสีฟ้า ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันที่ 10 เมษายน ซึ่งหลายคนมองว่าเกมนี้มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นการชี้ว่าทีมไหนจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาลนี้เลยทีเดียว

และเกมต่อไปก็ต้องเปิดบ้านต้อนรับ ทีม”เหยี่ยวลิสบอน”เบนฟิก้า ในเกมนัด2 วันที่ 13 เมษายน และหลังจากแค่1สัปดาห์ที่เพิ่งดวลกันในลีก ลิเวอร์พูล ต้องเตะดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกครั้ง ที่สนามเวมบลีย์ ในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ วันที่ 16 หรือ 17 เมษายน

แต่ไม่ว่าผลการแข่งขันถ้วยฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกจะออกมาเป็นแบบไหน เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเลือดด๊อยท์ช  ยังต้องเจอกับงานหนักเมื่อต้องทำศึก “แดงเดือด” ปะทะ ผีแดง ที่แอนฟิลด์ ในวันที่ 19 เมษายน ซึ่งแน่นอนว่า “ผีแดง” ต้องการมาล้างตาหลังพวกเขาแพ้ยับคาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 0-5 มาแล้ว

หลังเกมแดงเดือดสุดหินกับคู่อริตลอดกาลจากนั้นอีกแค่ 5 วันก็ต้องมาดวลกับคู่อริร่วมเมืองนั่นก็คือการรับมือทีม “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ที่ต้องการชัยชนะอย่างมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการตกชั้นไปเล่นในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ

และในเกมต่อไปซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับผลงานในการเตะกับ เบนฟิก้า แต่ตามชื่อชั้น และผลงานในเวลานี้ “เดอะ ค็อป” ลิเวอร์พูล   อาจจะผ่านได้ และมีความเป็นไปได้ว่าต้องเจอกับ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรก วันที่ 27 เมษายน พร้อมตบท้ายเกมเดือนเมษายน บุกไปเยือน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
เปิดโปรแกรมหฤโหดเดือนเมษายนของหงส์แดงในการลุ้นคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้

วันที่ 2 เมษายน – วัตฟอร์ด (เหย้า) เกมพรีเมียร์ลีก
วันที่ 5 เมษายน   – เบนฟิก้า (เยือน) เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก
วันที่ 10 เมษายน   – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน) เกมพรีเมียร์ลีก
วันที่ 13 เมษายน   – เบนฟิก้า (เหย้า) เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก
วันที่16/17 เมษายน   – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (สนามกลาง) เกมเอฟเอ คัพ
วันที่ 19 เมษายน  – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า) เกมพรีเมียร์ลีก
วันที่ 24 เมษายน   – เอฟเวอร์ตัน (เหย้า) เกมพรีเมียร์ลีก
วันที่ 27 เมษายน  – เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
วันที่ 30 เมษายน   – นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (เยือน) เกมพรีเมียร์ลีก