656-1
แทงบอล บาคาร่า คาสิโน สล็อต

ข้อมูลส่วนตัว

ชีวิตค้าแข้ง

โธมัส ทูเคิล เป็นนักเตะและเคยผ่านการเล่นฟุตบอลอาชีพในตำแหน่งกองหลังกับ 2 ทีมเท่านั้น และเป็นสโมสรในลีกล่างของเยอรมนีคือ คิกเกอร์สตุทการ์ท ในปี 1992-1994 และ อูล์ม ระหว่างปี 1994-1998

และหลังจากนั้น โธมัส ทูเคิล จำเป็นต้องยุติการเป็นนักเตะ เนื่องจากประสบปัญหาอาการเจ็บเข่าเรื้อรังจนต้องแขวนสตั๊ดด้วยอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีอยู่ เพราะนั่นทำให้ ทูเคิล ได้ผันตัวมายังบทบาทใหม่ นั่นคือการเป็นโค้ชตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มนั่นเอง

เริ่มต้นเส้นทางโค้ช

หลังจากแขวนสตั๊ดในปี 1998 ทูเคิลเริ่มศึกษาเรื่องโค้ชและศาสตร์ลูกหนัง จนได้เริ่มต้นด้วยการเข้าเป็นโค้ชทีมเยาวชนของทีม “ม้าขาว” สตุตการ์ท สโมสรดังของบุนเดสลีกา เมื่อปี 2000 ก่อนจะมีส่วนช่วยสร้างแข้งดาวรุ่งฝีเท้าดี ซึ่งกลายเป็นสตาร์ดังในเวลาต่อมาอย่าง โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ และ มาริโอ โกเมซ

และหลังจากนั้น ทูเคิล ย้ายไปเป็นหนึ่งในทีมสตาฟฟ์โค้ชเยาวชนของ เอาก์สบวร์ก ในปี 2005 และทำหน้าที่นี้อยู่ประมาณ 3 ปี ก็ได้รับโอกาสขึ้นเป็นเฮดโค้ชทีมสำรองของ เอาก์สบวร์ก ก่อนจะถูกดึงตัวไปเป็นเฮดโค้ชทีมเยาวชนของทีม ไมนซ์05 ในปี 2008

ซึ่งหลังจากทำหน้าที่ในทีมเยาวชนได้แค่ปีเดียว ทูเคิลก็ถูกดันขึ้นมานั่งเก้าอี้กุนซือทีมชุดใหญ่ของ ไมนซ์ โดยเข้ามาเสียบแทน เจอร์เก้นคล็อปป์ ที่ย้ายไปคุมทีม “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

และที่สำคัญ ในฤดูกาลนั้น ไมนซ์ ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในบุนเดสลีกาพอดี ทำให้ ทูเคิล ได้กลายเป็นกุนซืออายุน้อยที่สุดในศึกบุนเดสลีกาฤดูกาล 2009-2010 ด้วยอายุเพียง 35 ปี และจะต้องมาวัดกึ๋นกับบรรดาโค้ชรุ่นพี่เขี้ยวลากดิน ไม่ว่าจะเป็น จุ๊ปป์ไฮย์เกส, หลุยส์ ฟาน กัล, ราล์ฟ รังนิก, โธมัสชาฟ หรือ เจอร์เก้นคล็อปป์

แต่ปรากฏว่า ทูเคิล สามารถพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนได้เห็นเมื่อสามารถพาทีมน้องใหม่อย่าง ไมนซ์ รอดตกชั้นแบบสบายๆ แถมจบในโซนบนของตารางอีกด้วย โดย ทีมไมนซ์ ปิดฟดูกาลในอันดับที่ 9 ของตารางบุนเดสลีกา

ผลงานแจ้งเกิด

ต่อมาในฤดูกาล 2010/11 ถือเป็นฤดูกาลแจ้งเกิดของ ทูเคิล อย่างแท้จริง เมื่อเขาพาทีม ไมนซ์ ระเบิดฟอร์มออกสตาร์ทฤดูกาลด้วยการคว้าชัยชนะ 7 นัดติดต่อกัน โดยเฉพาะการบุกไปเชือดทีมอย่าง “เสือใต้” บาเยิร์นมิวนิค2-1 ถึงถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า เล่นเอาทุกสายตาในวงการลูกหนังเมืองเบียร์ต้องจับจ้องมาที่กุนซือหนุ่มที่ชื่อว่า โธมัส ทูเคิล

ก้าวสู่งานใหญ่

หลังจากนั้น โธมัส ทูเคิล ยกระดับตัวเองมารับงานที่ใหญ่ขึ้น นั่นคือการคุมทีม “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในปี 2015 และเป็นอีกหนึ่งครั้งที่เขาเข้ามาคุมทีมต่อจาก เจอร์เก้นคล็อปป์ ซึ่งโยกไปคุมทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล โดยสาเหตุที่ดอร์ทมุนด์เลือกใช้บริการ โธมัส ทูเคิล เนื่องจากมองว่าเขามีสไตล์และปรัชญาการทำทีมคล้ายคลึงกับคล็อปป์ จึงน่าจะเข้ามาสานงานต่อได้ไม่ยาก

โดยปีแรกของ ทูเคิลกับดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาล 2015-2016 เขาพาทีมจบด้วยการเป็น “ดับเบิ้ลรองแชมป์” ทั้งบุนเดสลีกา และเดเอฟเบ โพคาล จากนั้นฤดูกาลต่อมาโธมัส ทูเคิล คว้าแชมป์แรกในอาชีพกุนซือได้สำเร็จ ด้วยแชมป์เดเอฟเบ โพคาล ส่วนผลงานในบุนเดสลีกาจบอันดับ 3

แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยสโมสรใหญ่ระดับดอร์ทมุนด์ เป้าหมายอันดับหนึ่งของพวกเขาคือ “แชมป์บุนเดสลีกา” นั่นหมายความว่า ทูเคิล ไม่สามารถทำได้ตรงตามเป้า นอกจากนี้ โธมัส ทูเคิล ยังมีปัญหากับบอร์ดบริหาร โดยเฉพาะเรื่องนโยบายการซื้อขายนักเตะ ทำให้ต่อมา ดอร์ทมุนด์ ตัดสินใจปลด ทูเคิล ตกเก้าอี้ในเดือนพฤษภาคม 2017

และหลังจากว่างงานได้ประมาณ 1 ปี ทูเคิลก็กลับคืนสู่วงการอีกครั้ง โดยตกลงเซ็นสัญญา 2 ปี เข้ารับตำแหน่งกุนซือ ปารีส แซงต์แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่แห่งลีกเอิง โดยเข้ามาแทน อูไน เอเมรี่ ในเดือนพฤษภาคม 2018 และผลงานในฤดูกาลแรกกับเปแอสเช ทูเคิลพาทีมคว้าแชมป์ลีกเอิง2018-2019 แต่ไม่สำเร็จในฟุตบอลถ้วยรายการอื่นๆ โดยเฉพาะ “ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก” ซึ่งพวกเขาจอดป้ายที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างน่าเจ็บใจ หลังเสมอกับทีม แมนฯ ยูไนเต็ด สกอร์รวม 3-3 แต่พ่ายไปด้วยกฏอเวย์โกล

และในซีซั่นต่อมา 2019-2020 ทูเคิลปรับจูนเปแอสเช ได้ลงตัวมากขึ้น และสามารถพาทีมคว้า “ทริปเปิ้ลแชมป์” ในประเทศ ทั้งแชมป์ลีกเอิง, เฟร้นช์คัพ, เฟร้นช์ ลีก คัพ และเกือบสร้างประวัติศาสตร์ซิวแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย โดยเปแอสเชเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะได้แค่รองแชมป์ หลังพ่ายต่อทีม บาเยิร์นมิวนิค0-1

และ มาถึงซีซั่น2020-2021 เปแอสเชทำผลงานได้ดีในเกมยูซีแอล โดยผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะแชมป์กลุ่มเอช แต่ฟอร์มในลีกเอิงไม่ค่อยดีนัก และที่สำคัญคือ โธมัส ทูเคิล ไปมีปัญหากับบอร์ดสโมสร โดยเฉพาะความขัดแย้งกับผู้อำนวยการด้านกีฬาอย่าง เลโอนาร์โด้ จนในที่สุด เปแอสเช ก็ยื่นซองขาวตะเพิด โธมัส ทูเคิล พ้นตำแหน่งไปเมื่อเดือนธันวาคม 2020 ก่อนจะดึง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มารับงานแทนในเวลาต่อมา

แต่ ทูเคิล ก็ว่างงานได้ไม่นาน โดยผ่านไปแค่ประมาณ1เดือน กุนซือชาวเยอรมันรายนี้ก็ได้เจอกับความท้าทายใหม่ เมื่อจรดปากกาเซ็นสัญญาคุมทีม เชลซี สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก แทนที่ของ แฟรงก์ แลมพาร์ด เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม 2021 ซึ่ง ทูเคิล ก็พาทีมสิงห์บลูกลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง

ทีมเชลซี ภายใต้การคุมทัพของโธมัส ทูเคิล จบอันดับ 4 ศึกพรีเมียร์ลีก 2020/21 และได้เข้าชิงเอฟเอ คัพ ก่อนจะไปพ่ายต่อทีม เลสเตอร์ ซิตี้0-1 แต่สุดท้าย ทูเคิล ก็ทำให้ทีมสิงห์บลูส์มีแชมป์ติดมือ และเป็นถ้วยโทรฟี่ใหญ่อีกต่างหาก คือการผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการเฉือนเอาชนะ แมนฯ ซิตี้1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้น “โบว์แดง” ของทูเคิล หลังจากเข้ามารับงานคุมเชลซีได้แค่ประมาณ 4 เดือนเท่านั้น

เกียรติประวัติ

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ปารีส แซงต์แชร์กแมง

เชลซี